เครื่องเทศฝรั่ง เคล็ดลับความอร่อยสไตล์อาหารตะวันตก ตอนที่ 2

หมวดหมู่: บทความอาหาร | 2 มกราคม 2562 | จำนวนเข้าชม (11,174)
เครื่องเทศฝรั่ง เคล็ดลับความอร่อยสไตล์อาหารตะวันตก ตอนที่ 2

เครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการปรุงอาหารให้อร่อย เพิ่มกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ความหอมละมุนและดึงดูดใจ โดยเครื่องเทศนั้นมักมีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จัก 5 เครื่องเทศฝรั่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในการปรุงอาหารไทยและเทศให้อร่อยทุกเมนู ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอาหารปรุงสดในร้านอาหารมีระดับรวมทั้งในเมนูข้าวกล่องอาหารกล่องก็ใช้กัน พร้อมแล้วเรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1. พริกไทย (Pepper)

Pepper

พริกไทย พืชสมุนไพรยอดนิยมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งเครื่องเทศ มีชื่อทางวิทยาศาตร์ว่า Piper nigrum เป็นพืชในวงศ์ Piperaceae เป็นพืชประเภทเถาเลื้อยซึ่งในการปรุงอาหารนั้น เราจะใช้ส่วนของเมล็ดที่มีรสชาติที่จัดจ้านและเผ็ดร้อน กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นเครื่องเทศที่มีการค้าขายมากที่สุดในโลก มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดีย สามารถช่วยดับกลิ่นคาวได้อย่างดีเยี่ยม รับประทานได้ทั้งรูปแบบแห้งและสด เป็นเครื่องเทศที่ถูกนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนู ทั้งเป็นพริกไทยป่นโรยหน้าตาอาหาร เป็นเครื่องปรุงสำหรับหมักเนื้อสัตว์ต่างๆ สเต็กพริกไทยดำ สปาเก็ตตี้ ไก่อบ ข้าวผัดหรือซอสพริกไทยดำ เป็นต้น ซึ่งมักใช้ควบคู่กับเกลือโดยใช้เป็นเครื่องปรุงบนโต๊ะอาหารด้วย
โดยปกตินั้น พริกไทยที่นิยมใช้กันจะมี 3 รูปแบบคือ พริกไทยดำ พริกไทยขาวหรือที่เรียกกันว่าพริกไทยล่อน และพริกไทยสดหรือพริกไทยเขียว โดยทั้ง 3 ชนิดนั้นมาจากผลของต้นพริกไทยเดียวกัน มิใช่คนละสายพันธุ์อย่างที่หลายท่านเข้าใจผิด

1 พริกไทยดำ คือ เมล็ดพริกไทยที่มีขนาดโตเต็มที่แต่ยังไม่สุก นำมาตากจนเมล็ดแห้งและเหี่ยว มีสีดำและมีกลิ่นหอม
2 พริกไทยขาว คือ เมล็ดพริกไทยที่สุกและแก่จัดจนผลเริ่มเป็นสีแดง นำไปแช่น้ำเพื่อล่อนเปลือกออกให้เหลือแต่เมล็ดภายในก่อนนำไปตากแห้ง จึงเป็นที่มาของคำว่าพริกไทยล่อน
3 พริกไทยสด คือ เมล็ดพริกไทยที่ยังสดอยู่ มีสีเขียว

นอกจากนี้พริกไทยยังมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงร่างกายและรักษาโรคได้หลายอย่าง ทั้งกลิ่นหอมฉุนที่ช่วยเพิ่มความตื่นตัว กระตุ้นสมองและพละกำลัง ช่วยแก้ปัญหาอาการอ่อนเพลีย บำรุงระบบย่อยอาหาร ลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง รักษาโรคกระเพาะ บำรุงระบบลำไส้และลดอาการอักเสบ

สำหรับข้อมูลพริกไทยเพิ่มเติม สามารถดูได้ในลิ้งค์ด้านหลังนี้ พริกไทย ราชาแห่งเครื่องเทศ

2. กระเทียม (Garlic)

Garlic

กระเทียม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Allium sativum อยู่ในตระกูลเดียวกับหัวหอม หอมใหญ่และต้นหอม เป็นเครื่องเทศที่ขาดไม่ได้สำหรับการปรุงอาหาร พบได้มากเกือบในหลายเมนู มีรสชาติที่เผ็ดร้อนและมีกลิ่นฉุน มีต้นกำเนิดในแถบเอเซียกลาง มีการใช้แพร่หลายไปทั่วโลกมาหลายพันปีตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ ในปัจจุบัน กว่า 80% ของปริมาณกระเทียมที่ปลูกกันทั่วโลกนั้นมาจากประเทศจีนซึ่งเป็นผู้ปลูกกระเทียมมากที่สุดของโลก ในประเทศไทยนิยมปลูกกันมาทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ในการทำอาหารได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยเพิ่มความเข้มข้นและรสชาติกลมกล่อม สำหรับเมนูอาหารที่นิยมใช้กระเทียมนั้นก็สามารถพบได้หลากหลาย โดยกระเทียมนั้นมักใช้ควบคู่กับพริกไทยในอาหารฝรั่ง

กระเทียม อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย มียับยั้งการเกิดมะเร็งและป้องกันโรคหัวใจ ช่วยรักษาแผลสดและแผลเรื้อรัง ช่วยควบคุมไขมันในเส้นเลือด รักษาอาการไข้หวัด บำรุงระบบโลหิตและบรรเทาอาการไอ อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคผิวหนังต่างๆ ได้อีกด้วย

 

3. ผักชี (Coriander or Cilantro)

Coriander_W
ผักชี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Coriandrum sativum ผักชีเป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นพืชล้มลุกที่มีสีเขียวทั้งต้น บริเวณรากเป็นสีขาว มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอินเดีย เอเชียตะวันตกและเมดิเตอร์เรเนียน นิยมปลูกในประเทศโมร็อกโก และ อินเดีย รวมถึงเมืองไทย ผักชีมีกลิ่นหอมที่โดดเด่นเฉพาะตัว สามารถใช้ปรุงอาหารได้ทั้งต้นรวมทั้งเมล็ด นิยมนำไปปรุงเมนูและประกอบอาหารหลากหลายชนิดทั้งในอาหารตะวันตกและตะวันออก เป็นพืชที่มาการใช้มาอย่างยาวนานทั้งในยุคกรีก โรมัน รวมทั้งจีนสมัยโบราณ

นอกจากนี้ ผักชี ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างทั้งช่วยบรรเทาอาการหวัดและอาการไอ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาอาการปวดท้องและอาหารเป็นพิษ บำรุงธาตุภายในร่างกาย ช่วยเพิ่มความเจริญอาหาร รักษาริดสีดวง แก้อาหารบิด อาเจียนและคลื่นไส้

 

4. ผักชีลาว หรือ ผักดิล (Dill)

 

Dill

ผักชีลาว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Anethum graveolens Linn. พืชล้มลุกที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับผักชี ลำต้นมีสีเขียวเข้ม ใบเป็นฝอย มีดอกสีเหลืองและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ส่วนยอดไปจนถึงราก มีถิ่นกำเนิดจากทางตะวันออกจากยุโรป ทวีปเอเชีย ตอนใต้ของรัสเซียและแถมเมดิเตอร์เรเนียน นิยมนำส่วนของลำต้นและใบไปประกอบอาหาร สามารถทานได้ทั้งแบบสดและแบบที่ปรุงเสร็จแล้ว รวมถึงการนำไปประดับตกแต่งเมนูอาหารต่างๆ ผักโรยหน้าอาหารฝรั่ง สำหรับเมนูที่ใช้ Dill ในการปรุงอาหารก็มีหลากหลายทั้งซอสต่างๆ สลัดและผักโรยหน้า เป็นต้น

ผักชีลาว มีสารสารลิโมนีน ช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง รวมถึงมีสรรพคุณในการขับลม ลดอาการแน่นท้อง ปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ บรรเทาอาการไอและบำรุงระบบย่อยอาหาร

5. เสจ (Sage)

Sage
เสจ ถึงแม้คนไทยจะไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องเทศฝรั่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก Sage มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Salvia officinalis จัดเป็นพืชกึ่งพุ่ม ลำต้นฉ่ำน้ำและใส มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรปและเขตเมดิเตอร์เรเนียน นิยมปลูกในแถบอเมริกาเหนือ มีกลิ่นฉุนคล้ายกับพริกไทย รสชาติเผ็นร้อน มักใช้ปรุงอาหารควบคู่กับสมุนไพรชนิดอื่นๆ และเข้ากับอาหารที่มีความมันได้อย่างลงตัว มักจะนำไปประกอบอาหารประเภท เมนูหมู พาสต้า สปาเก็ตตี้ พิซซ่า และแกงต่างๆ

เสจ มีสรรพคุณในการช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด ช่วยเพิ่มการเจริญอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำและสมาธิ ลดอาการปวดศีรษะ อาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ แก้อาหารท้องเสีย ท้องแน่นเฟ้อ รวมถึงยังช่วยรักษาอาการอักสบทางผิวหนังได้เป็นอย่างดี

 

สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับเครื่องเทศฝรั่ง ตอนที่ 1 ในด้านล่างนี้:

เครื่องเทศฝรั่ง เคล็ดลับความอร่อยสไตล์อาหารตะวันตก ตอนที่ 1

 

คีย์เวิร์ด: เครื่องเทศ,เครื่องเทศฝรั่ง,เครื่องเทศอาหารฝรั่ง,เครื่องเทศอาหารยุโรป,สมุนไพร,สมุนไพรฝรั่ง,สมุนไพรยุโรป,อาหารกล่อง,ข้าวกล่อง,อาหารฝรั่ง,อาหารยุโรป,พริกไทย,กระเทียม,ผักชี,ผักชีลาว,เซจ